ข่าวดังวงการธนาคาร เมื่อ “ทหารไทย-ธนชาต” ควบรวมกัน แล้วดีต่อลูกค้าอย่างไร

“ทหารไทย-ธนชาต” ควบรวมกัน แล้วดีต่อลูกค้าอย่างไร

ไม่พลาดข่าวสาร กดแอดไลน์ ติดตามเรา

เพิ่มเพื่อน

คืบหน้าการควบรวม “ทหารไทย-ธนชาต” ฉลุุย เตรียมโอนกิจการทั้งหมด พร้อมเพิ่มทุน 1.3-1.4 แสนล้านบาท ‘ทีเอ็มบี’ เสนอขายให้ทุนธนชาต-BNS และรายย่อยประมาณ 5-5.5 หมื่นล้านบาท ในราคาหุ้นละ 1.1 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ที่เหลืออีก 4-4.5 หมื่นล้านบาท คาดจะเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม นัดแถลงข่าว 27 ก.พ. นี้

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2562 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ธนาคารได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย (Non-Binding Memorandum of Understanding) กับ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ING Groep N.V., บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) และ The Bank of Nova Scotia (“BNS”) เพื่อกำหนดกรอบความเข้าใจและหลักการสำหรับการเจรจาร่วมกันต่อไป เกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการรวมกิจการระหว่างธนาคารและธนาคารธนชาต เพื่อร่วมดำเนินธุรกิจธนาคารด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้้น โดยภายหลังการรวมกิจการจะมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท ฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านคน และมีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 6 ในอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ไทย

นอกจากนั้น ธนาคารทั้ง 2 แห่ง มีจุดแข็ง ซึ่งส่งเสริมกัน คือ ธนาคารฯ มีจุดเด่นในการระดมเงินฝากด้วยกลยุทธ์ด้านเงินฝาก ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากที่แตกต่างจากการธนาคารแบบดั้งเดิม ขณะที่ ธนาคารธนชาตเป็นผู้นำด้านสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อรถยนต์ การรวมกิจการจึงช่วยเพิ่มศักยภาพในการระดมเงินฝากจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และสร้างสมดุลให้กับโครงสร้างสินเชื่อได้เป็นอย่างดี ก่อให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับการควบรวมกิจการ โดยวิธีการโอนกิจการทั้งหมด มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 1.3-1.4 แสนล้านบาท โดยอาจจะมีการปรับมูลค่าในขั้นตอนสุดท้าย จากการตรวจสอบวิเคราะห์ฐานะ เมื่อมีการทำสัญญาต่อไป ส่วนของเงินทุนที่จะใช้ในการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ จะระดมทุนทั้งการออกตราสารหนี้และการออกหุ้นเพิ่มทุน โดยทหารไทยจะออกหุ้นเพิ่มทุน ประมาณ 70% ของมูลค่าธุรกรรม โดยที่หุ้นเพิ่มทุน 50,000-55,000 ล้านบาท ให้กับทุนธนชาตและ BNS และผู้ถือหุ้นรายย่อย คิดมูลค่าหุ้นเพิ่มทุนเท่ากับ 1.1 เท่าของมูลค่าทางบัญชีล่าสุดของธนาคาร ที่เหลืออีก 40,000-45,000 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นหลักปัจจุบันของธนาคารฯ รวมทั้งอาจจะมีการออกหุ้นเพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนต่อไป หรือ ขายในวงจำกับนักลงทุนรายใหม่ หรือ นักลงทุนรายเดิม

“ก่อนควบรวมธนชาตจะปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจปัจจุบันของทหารไทย และลดขนาดกิจการลงให้มีขนาดใหล้เคียงกัน หลังเพิ่มทุนเพื่อความเหมาะสม โดยจะเสนอขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและเงินลงทุนอื่นให้กับผู้ถือหุ้นของธนชาติทุกรายตามสัดส่วนการถือหุ้นภายใต้ข้อกำหมายกำหนด หรือตามที่ตกลงกันในสัญญา โดยบริษัทย่อยและเงินลงทุน รวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัทบริหารสินทรัพย์ ทีเอส จำกัด บริษัท ราชธานี ลิสซิ่ง และเงินลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือ บริษัท เอ็มบีเค จำกัด (มหาชน) บริษัท ปทุมไรมิลล์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) และเงินลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ หลังควบรวมธนชาตยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และร่วมเป็นคณะกรรมการธนาคาร มีสัดส่วนถือหุ้นไม่น้อยกว่า 20% และยังเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในฐานะ Financial Holding Company”

ทั้งนี้ ภายหลังการควบรวมกิจการเสร็จสิ้น ธนาคารธนชาตและธนาคารทหารไทยจะเริ่มดำเนินการรวมธุรกิจของทั้ง 2 ธนาคาร ภายใต้ธนาคารเดียวสำหรับชื่อใหม่ ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของคณะกรรมการที่จะพิจารณาจากจุดแข็งในเชิงพาณิชย์ของชื่อทางการค้าเดิมของทหารไทยและธนาคารธนชาตต่อไป

หนังสือธนาคารธนชาตแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ TBANK

ไม่พลาดข่าวสาร กดแอดไลน์ ติดตามเรา

เพิ่มเพื่อน

ใส่ความเห็น