หนุ่มคนนี้ เลี้ยงเป็ดไข่ 500 ตัว มีรายได้วันละ 1000 เขาทำอย่างไร ไปดูกันเลย

 

“ไข่เป็ดสดๆ ครับผม ส่งตรงถึงมือคุณลูกค้าทุกวัน รายได้วันละพันกว่าบาท ผมว่า ตจว. อยู่ได้แบบสบายๆ เลยครับ รายจ่ายน้อยมากครับ”   นี่คือข้อความของคุณจักรกรินทร์ ต้นตระกูลโฆษณา ที่ได้โพสต์บนเฟสบุ๊คส่วนตัวของเขา พร้อมภาพสมาชิกเป็ด ที่เค้าโพสต์ให้ชมกัน

นอกจากภาพจะน่าสนใจ ข้อความก็ดูจะเชิญชวนให้อ่านไม่น้อย ลึกไปกว่านั้น เขาบอกว่ามีรายได้วันละพันกว่าบาท อยู่ต่างจังหวัดได้สบายๆ จึงทำให้เราต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

คุณจักรกรินทร์ หรือคุณเอ็ม เล่าให้ฟังว่าตัวเขานั้นมีภูมิลำเนาบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ (บ้านคลองเตย ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร) เรียนจบคณะวิทยาศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายไอที ของบริษัทขายรถแท็กซี่แห่งหนึ่ง

“เราทำงานได้เงินทุกบาททุกสตางค์ไปลงเกษตรหมด” คือ คำบอกเล่าว่าชีวิตของคุณเอ็มมีความผูกพันกับอาชีพเกษตร

คุณเอ็ม เริ่มต้นอาชีพเกษตรจากการเลี้ยงไก่ไข่พันธุ์โรดไอแลนด์ จำนวน 200 ตัวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ถึงวันนี้ไก่ตายไปบ้างคงเหลือ ประมาณ 150 ตัว และให้ไข่วันละ 70-80 ฟองทุกวัน ก็พอทำให้ขายมีรายได้

 

 

ภาพ  แสดงเล้าเป็ดไข่ ประมาณ 500 ตัว

ต่อมาเมื่อต้นปีมีนี้เอง…ได้ตัดสินใจเลี้ยงเป็ดไข่ “กากีแคมเบล” จำนวน 500 ตัว หลังจากที่ได้ศึกษาวิชาเลี้ยงเป็ดที่ปลดระวาง (เป็ดที่เลี้ยงเพื่อทำลาบ) มาระยะเวลาหนึ่งก็พอจะทำให้รู้ว่าเป็ดมีพฤติกรรมอย่างไร ตนเองพอจะเลี้ยงได้ไหม

โดยเป็ดที่เลี้ยงนั้นเป็นเป็ดสาว ซื้อมาตัวละ 150 บาท เหตุที่ไม่ซื้อเป็ดเด็ก (ราคาตัวละ 29 บาท) เพราะคิดว่าต้องมาเลี้ยงเป็นเวลานาน (18 สัปดาห์กว่าจะออกไข่) ต้นทุนน่าจะสูงกว่าจะได้ไข่ จึงเลี้ยงเป็ดสาว ซึ่งใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ก็ออกไข่แล้ว

ส่วนเหตุผลที่เลี้ยงเป็ด เพราะคิดว่าสภาพพื้นที่ของบ้านที่อยู่กลางไร่อ้อยมีความเงียบสงบ และจากที่เลี้ยงไก่ไข่มาก่อนก็พอจะทำให้เห็นว่าตลาดไข่เป็ดน่าจะมีโอกาสขายได้

“ตอนที่เขามาส่งเป็ด เขาบอกว่าถ้าเลี้ยงหมาอยู่ด้วยจะไม่ค่อยได้ผล เป็ดจะขี้ตกใจ มันจะไม่ไข่ แต่เรามันคนรักหมาเลี้ยงไว้ 8 ตัว จะให้หมาไปอยู่ที่ไหนละ เป็ดเข้ามาก็ต้องมาอยู่ด้วยกันซิ”

“เราจะสอนหมาว่าไม่ให้กัดเป็ดนะ…ธรรมชาติมันต้องปรับตัว ทุกชีวิตต้องอยู่ร่วมกันได้ ก็ใช้เวลาไม่กี่วันทั้งเป็ดทั้งหมาสามารถอยู่ด้วยกันได้ อย่างเวลาเราจะให้อาหารเป็ด หมาเดินเข้าไปในเล้าเป็ด ถ้าเป็นวันแรกๆเป็ดจะวิ่งหนี แต่วันนี้กินอาหารด้วยกันได้”

 

 

ปัญหาของการเลี้ยงเป็ดคือเรื่องอาหารที่มีต้นทุนสูงมาก คุณเอ็มเล่าให้ฟังว่า คนขายเป็ดแนะนำให้ใช้อาหารสำเร็จรูปวันละ 2 กระสอบครึ่งต่อวันต่อเป็ด 500 ตัว โดยที่อาหารกระสอบละ 450 บาท ตกวันละ 1,000 บาทเป็นอย่างน้อย“แล้วเราจะเหลืออะไร” จึงเปลี่ยนวิธีใหม่ด้วยการทำอาหารเป็ดขึ้นใช้เอง

“ผมใช้รำข้าว ปลายข้าว ข้าวโพด รวมทั้งข้าวเปลือก มาผสมกับอาหารสำเร็จรูปนิดหน่อย ก็พบว่าเป็ดกินอาหารได้ดี และพบว่าวิธีนี้สามารถลดต้นทุนได้เยอะ…เฉลี่ยค่าอาหารวันละ 300 บาทเท่านั้น”

ด้านการตลาด…เป็ดที่ซื้อมา ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก็ทยอยออกไข่ จนวันนี้ได้ออกไข่แล้ว จำนวน 350 ตัว นั่นหมายถึงว่ามีไข่ให้ขายวันละ 350 ฟอง โดยระยะแรกไข่ก็จะยังฟองเล็กที่เรียกว่า “ไข่สาว” แต่ไม่นานนักฟองก็จะโต ซึ่งจะโตเร็วกว่าไก่ จนได้ขนาดเบอร์ 0 (เบอร์ใหญ่ที่ได้ราคาที่สุด)

“ผมจะเก็บไข่เป็ดขายได้ทุกวัน วันละ 10 แผงขึ้นไปเป็นอย่างน้อย (แผงละ 30 ฟอง) ขายแผงละ120 บาท ตลาดที่ขายก็จะอยู่ในหมู่บ้าน โดยขายหมดทุกวัน ซึ่งแต่เดิมจะมีรถเร่เข้ามาขายไข่ในหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ไม่มาแล้ว เพราะเรายึดตลาดเสียเอง”

 

 

 

สรุปว่า  ขายไข่เป็ดได้วันละ 1,000 กว่าบาท หักต้นทุนค่าอาหารวันละ 300 บาท และจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเป็ดที่เหลืออีก 150 ตัว ทยอยออกไข่ ซึ่งตามข้อมูลของผู้ขายเป็ด (ซื้อจากฟาร์มเป็ดที่ขอนแก่น) บอกว่าเป็ดจะออกไข่จนอายุ 5-6 ปี ซึ่งถ้าเป็นไปตามข้อมูลนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก kasetkaoklai

ใส่ความเห็น