11 อันดับ ประเทศในอาเซียน ที่ พนักงานจบใหม่ มีเงินเดือน สูงที่สุด

11 อันดับ ประเทศในอาเซียน ที่ พนักงานจบใหม่ มีเงินเดือน สูงที่สุด

8 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางเว็บไซด์ชื่อดังอย่าง TEMPO.CO จาการ์ตา ได้แจ้งถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ และเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องรวมถึงการลงทุนที่ไหลเข้าสู่ภูมิภาค ทำให้ประเทศในโซนทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศมีการให้เงินเดือนที่สูงให้กับพลเมืองของตน

จากข้อมูลของ Time Doctor เงินเดือนโดยเฉลี่ยในเอเชียอยู่ที่ประมาณ 12,883 เหรียญสหรัฐต่อปีหรือ 472,290.78 บาทต่อปีถ้าคิดเป็นเงินไทย แม้ว่าระดับเงินเดือนจะแตกต่างกันไปในประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ภูมิภาคโดยรวมก็มอบโอกาสมากมายให้ผู้อยู่อาศัยได้รับมาตรฐานการครองชีพในระดับสูง โดยรายชื่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเงินเดือนสูงสุดในปี 2567 และเงินเดือนโดยเฉลี่ยตาม Time Champ ดังนี้

 

  1. สิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยมีเงินเดือนเฉลี่ยสูงที่สุด ด้วยสถานะเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยี สิงคโปร์ดึงดูดคนงานที่มีประสบการณ์จำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก เงินเดือนโดยเฉลี่ยในสิงคโปร์สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกมาก ซึ่งก็คือ 6,332 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 232,131.12 บาท
  1. ประเทศไทย ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสอง และเป็นสถานที่ที่ดีในการจ้างบุคคลภายนอก เนื่องจากมีลักษณะการแข่งขันในด้านเงินเดือนเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ จากข้อมูลของ Time Camp ค่าจ้างเฉลี่ยในประเทศไทยอยู่ในช่วงประมาณ 20,000 ถึง 25,000 บาทสำหรับตำแหน่งระดับเริ่มต้น ผู้ประกอบอาชีพระดับกลางสามารถคาดหวังเงินเดือนที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถอยู่ในช่วงตั้งแต่ 50,000 ถึง 100,000 บาท
  1. บรูไน แม้จะมีประชากรค่อนข้างน้อย แต่บรูไนก็ขึ้นชื่อในด้านทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ สิ่งนี้ทำให้ประเทศมีเงินเดือนสูงสำหรับผู้อยู่อาศัยด้วยมาตรฐานการครองชีพที่ค่อนข้างสูง อ้างอิงจาก Salary Explorer รายได้เฉลี่ยในบรูไนปัจจุบันอยู่ที่ 87,503.21บาท
  1. มาเลเซีย มาเลเซียเสนอโอกาสในการทำงานที่น่าดึงดูดในภาคส่วนต่างๆ ให้กับผู้อยู่อาศัย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มระดับรายได้โดยรวม เงินเดือนโดยเฉลี่ยในมาเลเซียคือ 38,306.36 บาท
  1. ฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฟิลิปปินส์ยังเป็นจุดหมายปลายทางด้านการจ้างงานภายนอกอันดับต้นๆ เนื่องจากมีแรงงานที่มีทักษะและค่าจ้างที่แข่งขันได้ เงินเดือนโดยเฉลี่ยในฟิลิปปินส์อยู่ที่ประมาณ 21,675.87 บาท
  1. อินโดนีเซีย อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากรจำนวนมากและมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แม้จะมีเงินเดือนต่ำกว่าประเทศอย่างสิงคโปร์หรือบรูไน แต่อินโดนีเซียยังคงมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคง ค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยในอินโดนีเซียอยู่ที่ 11,576.84 บาทต่อเดือน ในขณะเดียวกัน ตามข้อมูลของ Salary Explorer เงินเดือนโดยเฉลี่ยในอินโดนีเซียอยู่ที่ประมาณ 20,588.99 บาท
  1. เวียดนาม เวียดนามกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนต่างชาติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตและเทคโนโลยี ประเทศนี้ยังขึ้นชื่อในด้านทิวทัศน์ที่สวยงาม ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจและการลงทุน ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเดือนพฤศจิกายน 2023 เงินเดือนที่น้อยที่สุดในเวียดนามคือ 7 บาทต่อเดือน ในขณะเดียวกัน เงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณเกือบเท่ากับ 26,138.58 บาท
  1. ลาว ลาวเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระดับเงินเดือนต่ำกว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและการลงทุนจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ระดับรายได้ในประเทศก็เริ่มเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากสถิติล่าสุด เงินเดือนโดยเฉลี่ยในลาวคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,666 – 4,949 บาท
  1. กัมพูชา การเติบโตทางเศรษฐกิจในกัมพูชาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการท่องเที่ยวและการผลิต ปัจจุบันเงินเดือนโดยเฉลี่ยในกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 5,499 ถึง 7,332 เหรียญสหรัฐต่อเดือน
  1. เมียนมาร์ โดยทั่วไปแล้ว ค่าจ้างเฉลี่ยในเมียนมาร์ถือว่าต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนหลายแห่ง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมหลายประการ เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนในเขตเมือง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ มีแนวโน้มสูงกว่าในเขตชนบท เงินเดือนโดยเฉลี่ยในเมียนมาร์คือ 5,430 บาท
  1. ติมอร์-เลสเต จากข้อมูลของ Time Camp เงินเดือนโดยเฉลี่ยในประเทศนี้อยู่ระหว่าง 5,499 บาท ถึง 9,165 เหรียญสหรัฐ  รายได้ในติมอร์-เลสเตค่อนข้างต่ำ เมื่อพิจารณาว่าประเทศนี้ยังคงมีการพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจหลังจากได้รับเอกราชจากอินโดนีเซียในปี พ.ศ. 2545

ใส่ความเห็น